Smart Community, Smart City

19 ตุลาคม 2561 16:52 น.

Smart Community, Smart City
ดร. ศุภชัย ตันติคมน์
อดีตที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
และหัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านการรับมือกับการเปลี่ยนแปลง กรุงเทพมหานคร

การขยายตัวของเมืองเพื่อรองรับประชากรที่เพิ่มขึ้นโดยไม่มีการวางแผนนำไปสู่ปัญหาต่างๆ จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นปัญหาขยะ การจราจร ความเหลื่อมล้ำ ดังนั้นการพัฒนาเมืองเพื่อก้าวสู่อนาคตที่ดีจะต้องคำนึงถึง 3 หลักการ ได้แก่

- Smart City เมืองที่ใช้เทคโลโนยีมาช่วยแก้ปัญหาของคน โดยโฟกัสที่การปรับปรุงคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจ
- Sustainable City เมืองที่ออกแบบโดยคำนึงถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม รองรับการใช้ชีวิตของประชากรในปัจจุบัน แต่ก็ต้องไม่รบกวนทรัพยากรและไม่ส่งผลกระทบที่ไม่ดีไปสู่รุ่นลูกรุ่นหลานในอนาคต
- Resilient City เมืองที่เติบโตและปรับตัวเพื่อรองรับกับปัญหาที่เกิดขึ้น สามารถฟื้นตัวจากความเครียดหรือภาวะช็อคเมื่อเกิดเหตุภับพิบัติต่างๆ ได้

โดยมีส่วนประกอบต่างๆ คือ Smart Community: ความปลอดภัยของชุมชน ความยืดหยุ่นพร้อมรับกับปัญหา, Smart Living: การใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน มีนวัตกรรม มีสุขภาพดี Smart Education: มีการศึกษาที่มั่นคง มีการวิจัย และการสนับสนุนที่ดี Smart Infrastructure: เมืองที่ปลอดภัย มีความพร้อมของเครื่อข่าย รองรับ IoT, Smart Mobility: เครือข่ายการคมนาคมขนส่ง การควบคุมการจราจรที่มีประสิทธิภาพ ระบบขนส่งหลายช่องทาง Smart Environment: การประหยัดพลังงาน อาคารอนุรักษ์พลังงาน พื้นที่สาธารณะ การวางผังเมือง การจัดการน้ำ รวมถึง Smart Governance และ Smart Economic

สำหรับประเทศไทย ได้มีการนำร่อง Smart City ในเมืองใหญ่ๆ ไปแล้ว ได้แก่ ภูเก็ต โดยเน้นความเป็นเมืองท่องเที่ยวและแหล่งสตาร์ทอัพ, ขอนแก่น เริ่มสร้าง LRT หรือรถไฟฟ้ารางเบาเพื่อเชื่อมต่อเมือง และ เชียงใหม่ ภายใต้เนวคิด “กินดี อยู่ดี มีสุข” ในส่วนของกรุงเทพฯ ก็มีการตั้งเป้าหมาย Bangkok Vision 2032 เอาไว้ ได้แก่ Safe City, Green City, City for All, Compact City, Democratic City และ City of Growing Economy & Life-long Learning

ที่มา: งานสัมมนา Global Business Dialogue: Innovating for Sustainable Future
จัดโดย สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA)

ดูข่าวสารทั้งหมด