top of page
กระทรวงดีอี เร่งขับเคลื่อนอนาคตประเทศไทย สู่เศรษฐกิจดิจิทัลและ AI อย่างยั่งยืน
กระทรวงดีอี เร่งขับเคลื่อนอนาคตประเทศไทย สู่เศรษฐกิจดิจิทัลและ AI อย่างยั่งยืน

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA และ สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) เปิดเวที สัมมนา “Navigating Thailand’s Sustainable Digital Future” เวทีสำคัญที่จัดขึ้นเพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจต่อนโยบายและความก้าวหน้าในการพัฒนาทางด้านดิจิทัล เปิดพื้นที่ให้ภาครัฐและเอกชนร่วมกำหนดยุทธศาสตร์ ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่อนาคตดิจิทัลอย่างยั่งยืน ตั้งเป้ายกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลไทย อยู่ 30 อันดับแรกของโลก และผลักดันให้เศรษฐกิจดิจิทัลมีสัดส่วนถึง 30% ของ GDP ภายในปี 2570

 

ภาพรวมความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลของประเทศไทย

จากรายงานการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัล ประจำปี 2567 โดย World Competitiveness Center แห่งสถาบัน IMD – International Institute for Management Development ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ประเทศไทยอยู่ในอันดับ 37 จาก 67 เขตเศรษฐกิจทั่วโลก ลดลง 2 อันดับจากปี 2566 โดยมีรายละเอียดใน 3 ปัจจัยหลัก ดังนี้

  • ด้านความรู้ (Knowledge): อันดับ 40 โดยมีจุดอ่อนในเรื่องบุคลากร ทักษะ และการศึกษาทางวิทยาศาสตร์

  • ด้านเทคโนโลยี (Technology): อันดับ 23 อยู่ในระดับกลาง แต่ลดลงค่อนข้างมากถึง 8 อันดับจากปีก่อนหน้า เนื่องจากอันดับในทุกปัจจัยย่อยลดลง

  • ด้านความพร้อมในอนาคต (Future Readiness): อันดับ 41 โดยเฉพาะด้านการบูรณาการไอที ที่ยังอยู่ในอันดับที่ต่ำ


 แนวทางยกระดับประเทศไทยสู่อนาคตดิจิทัล

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้นำเสนอแนวทางหลัก 6 ด้าน เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลสูงขึ้นตามเป้าหมายภายในปี 2570 ประกอบด้วย

1.      ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการพัฒนาธุรกิจและชีวิตประชาชน

2.      ส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานและสภาพแวดล้อมดิจิทัล

3.      พัฒนาเทคโนโลยี AI อย่างเป็นระบบ

4.      พัฒนาบริการและแพลตฟอร์มดิจิทัล

5.      ยกระดับความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์

6.      เสริมสร้างทักษะและความรู้ดิจิทัลให้กับประชาชนทุกกลุ่ม

 

นอกจากนี้ ในเวทีสัมมนา “Navigating Thailand’s Sustainable Digital Future” ได้มีการประเมินว่า ประเทศไทยมีความพร้อมในการก้าวสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยดิจิทัลและ AI ในระดับ “ปานกลาง” โดยต้องเร่งพัฒนา 3 ประเด็นอย่างเร่งด่วน ดังนี้


  • บุคลากรดิจิทัล: โดยปัจจัยย่อยด้าน Talent ของประเทศไทยตามผลการจัดอันดับ WDCR ยังคงอยู่ในอันดับ 35–40 ต่อเนื่องหลายปี

  • รัฐบาลดิจิทัล: แม้ปีล่าสุดจะมีอันดับดีขึ้น มาอยู่ในอันดับ 44 แต่ยังจำเป็นต้องเร่งยกระดับบริการสาธารณะผ่านระบบดิจิทัล

  • การรับรู้และการแบ่งปันแนวปฏิบัติที่ดี: อันดับ e-Participation ของไทยลดลงถึง 20 อันดับ จากอันดับ 17 ในปี 2566 มาอยู่ที่อันดับ 37 ในปี 2567



 ปัจจัยความสำเร็จสู่ "Digital and AI-Driven Economy"

ในด้านการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม จำเป็นต้องอาศัยปัจจัยความสำเร็จ (Key Success Factors) 3 ด้าน ได้แก่ People (บุคลากร): ความรู้ ทักษะ การศึกษา และความเป็นผู้นำ (อันดับ 39) Government (ภาครัฐ): นโยบายสนับสนุนและกรอบกำกับดูแล (อันดับ 44) และ Collaboration (ความร่วมมือ): การบูรณาการด้านข้อมูล การระดมทุน และการสร้างความตระหนักรู้ (อันดับ 24) โดยสามารถแบ่งแผนการดำเนินงานออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว


Quick Wins (ระยะสั้น):

  • ผลักดันความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ

  • ส่งเสริม Startup และ Unicorn

  • สนับสนุนการดำเนินนโยบายที่เป็นรูปธรรม


ระยะกลางและระยะยาว:

  • พัฒนา STEM และ Talent

  • ยกระดับ Digital GDP และ Ranking

  • วางกรอบนโยบายและกฎหมายสนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัล

 

ทั้งนี้ การเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัลและ AI ไม่ใช่เพียงเรื่องของนวัตกรรมเท่านั้น แต่ต้องอาศัยการรวมพลังของทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงในเวทีโลกอย่างยั่งยืน

 


Untitled design (29)_edited_edited.png

สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย

276 ซ.รามคำแหง 39 (เทพลีลา 1) ถ. รามคำแหง แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310

Contact Us

Tel: +662-319-7677 / +662-718-5601

Click here to find us on map

  • Line_Rounded_Solid_icon-icons.com_61550
  • LinkedIn
  • Facebook
  • Instagram

Copyright ©2024 by Thailand Management Association.

bottom of page