top of page
บทวิเคราะห์เชิงลึก: ประเทศไทยพร้อมแค่ไหนในการแข่งขันยุคดิจิทัลและ AI?
บทวิเคราะห์เชิงลึก: ประเทศไทยพร้อมแค่ไหนในการแข่งขันยุคดิจิทัลและ AI?

จากการบรรยายในงานสัมมนาออนไลน์ Are You Ready to Compete in the Digital & AI ERA? ภายใต้โครงการการสื่อสารเพื่อสนับสนุนการยกระดับความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลของประเทศไทย (Driving a nation towards World Digital Competitiveness) ซึ่งดำเนินการร่วมกันระหว่าง สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) และ สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) 


การบรรยายสำคัญโดย Prof. Arturo Bris ได้นำเสนอผลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันทางดิจิทัลของประเทศไทย (World Digital Competitiveness Ranking - WDCR) ที่เผยให้เห็นภาพความก้าวหน้าควบคู่ไปกับความท้าทายเชิงโครงสร้างที่สำคัญ ซึ่งผู้บริหารทั้งภาครัฐและภาคเอกชนต้องให้ความสนใจและเร่งดำเนินการปฏิรูป


ภาพรวมการจัดอันดับ: ความก้าวหน้าที่ช้ากว่าคู่แข่ง


จากการพิจารณาคะแนน (Score) ความสามารถในการแข่งขันทางดิจิทัลของไทยเพิ่มขึ้นจาก 65.45 เป็น 68.95 คะแนน ซึ่งสะท้อนความคืบหน้าในการพัฒนาการศึกษาและโครงสร้างพื้นฐาน แต่ในแง่ของอันดับรวม ประเทศไทยกลับอยู่ในอันดับที่ 38 ของโลกในปี 2025 การที่อันดับลดลงแสดงให้เห็นว่าความก้าวหน้าของไทยนั้นดำเนินไปช้ากว่าประเทศอื่น ๆ  แนวโน้มการจัดอันดับ 5 ปีล่าสุดของไทยปัจจัยหลักด้านเทคโนโลยีซึ่งเคยเป็นปัจจัยที่เป็นจุดแข็งของไทยลดลงจาก 22 ในปี 2021 มาอยู่ที่ 29 ในปี 2025 ซึ่งเป็นสัญญาณว่า ถึงเวลาแล้วที่ต้องเร่งปรับปรุง


ทั้งนี้ ประเทศที่ครองตำแหน่งสูงสุดในการจัดอันดับ World Digital Competitiveness ในปีนี้ ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์ ตามลำดับ ซึ่งมีนัยยะว่าการใช้เทคโนโลยีเพื่อความมั่งคั่งของประชาชนคือปัจจัยแห่งความสำเร็จ


เจาะลึก 3 ปัจจัยแห่งความสามารถในการแข่งขัน


ผลการวิเคราะห์แบ่งออกเป็นสามปัจจัยหลัก ซึ่งสะท้อนภาพที่แตกต่างกันของประเทศไทยในปี 2025:


1. ปัจจัยความรู้ (Knowledge Factor):


ปัจจัยความรู้ของประเทศไทยมีแนวโน้มที่ดีขึ้น สามปีติดต่อกัน โดยไต่อันดับขึ้นไปอยู่ที่ 37 ซึ่งเป็นอันดับที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2021


  • แรงขับเคลื่อน: ส่วนใหญ่มาจากความก้าวหน้าในการฝึกอบรมและการศึกษา โดยเน้นที่การผลิตผู้สำเร็จการศึกษาที่มีทักษะสูงด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (STEM)


  • โครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง: ประเทศไทยยังคงมีความโดดเด่นในด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านการเชื่อมต่อและระบบอัตโนมัติ โดยติดอันดับที่ 11 ของโลกสำหรับการกระจายหุ่นยนต์ อันดับ 8 ในการลงทุนด้านโทรคมนาคม และอันดับ 13 ในด้านความเร็วแบนด์วิดท์อินเทอร์เน็ต


2. ปัจจัยเทคโนโลยี (Technology Factor):

ปัจจัยเทคโนโลยีของไทยลดลงถึงหกอันดับ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่น่ากังวล

  • ปัญหาหลัก: คือการลดลงของการลงทุนในเงินทุน และที่สำคัญที่สุดคือการลดลงอย่างรุนแรงของเงินทุนร่วมลงทุน (Venture Capital - VC) ซึ่งอันดับตกลงอย่างรวดเร็วจาก 25 เป็น 34

  • ผลกระทบ: การขาดแคลนเงินทุนในระยะเริ่มต้นนี้เป็นการจำกัดการเติบโตของสตาร์ทอัพ และท้าทายการขยายตัวของนวัตกรรมดิจิทัลในประเทศไทย การกำหนดนโยบายที่ตรงจุดจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อดึงดูดกองทุน VC ทั่วโลก


3. ปัจจัยความพร้อมในอนาคต (Future Readiness Factor):

ปัจจัยนี้เป็นปัจจัยที่ประเทศไทยได้อันดับต่ำที่สุด

  • จุดอ่อน: อันดับของความคล่องตัวทางธุรกิจ (Business Agility) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

  • ทัศนคติของผู้บริหาร: ผู้บริหารรับรู้ว่าบริษัทของตนมีความสามารถในการปรับตัวน้อยลง และดำเนินการได้ช้าในการคว้าโอกาสทางดิจิทัลที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

  • ทางออก: การเพิ่มความคล่องตัวนี้ต้องอาศัยการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม การลงทุนด้านดิจิทัล และความเป็นผู้นำที่มุ่งเน้นนวัตกรรม


ส่องความท้าทายเชิงโครงสร้างที่ต้องแก้ไขเร่งด่วน

1.      ช่องว่างระหว่างทักษะและการจ้างงาน (Employment Gaps):

แม้จะผลิตบัณฑิต STEM ได้มาก แต่ไทยกลับอยู่อันดับที่ 57 ในการจ้างงานทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งเผยให้เห็นปัญหาการรักษาบุคลากร (Talent Retention) และการดูดซับบุคลากรที่มีคุณภาพ "ทักษะไม่ตรงกับคุณสมบัติของงาน"  และบุคลากรเหล่านี้ขาดโอกาสในการทำงานที่ตรงกับสาย การปิดช่องว่างนี้จึงต้องอาศัยการสร้างงานดิจิทัลและอุตสาหกรรมนวัตกรรม  


2.      ความมั่นคงทางไซเบอร์และการกำกับดูแล (Cybersecurity and Regulatory Lag):

ประเทศไทยมีอันดับต่ำมากในด้านเซิร์ฟเวอร์อินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยและการควบคุมการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์  ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์นี้ยังเป็นอุปสรรคต่อการลงทุนจากต่างชาติ  นอกจากนี้ ความล่าช้าในการกำหนดกฎหมาย AI Policy ก็เป็นจุดอ่อนสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยมีอันดับต่ำ  การปฏิรูปเพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยทางไซเบอร์ การบังคับใช้กฎหมาย IP และการเร่งการกำกับดูแล AI จึงเป็นปัจจัยที่จะช่วยขับเคลื่อนประเทศได้อย่างทันท่วงที

 

สรุป: การเปลี่ยนจุดอ่อนให้เป็นโอกาส

รายงานฉบับนี้ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ประเทศไทยมีความก้าวหน้าในด้านบุคลากรและโครงสร้างพื้นฐาน แต่กลับเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญในด้านเงินทุนร่วมลงทุนและกรอบการกำกับดูแล  การเปลี่ยนจุดอ่อนเหล่านี้ให้เป็นโอกาสต้องอาศัยกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมนวัตกรรม  การดึงดูดการลงทุน การเพิ่มความคล่องตัวขององค์กร  และการเสริมสร้างธรรมาภิบาลทางดิจิทัลที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ  หากสามารถจัดการกับความท้าทายเหล่านี้ได้ ประเทศไทยย่อมสามารถก้าวไปสู่การเป็นผู้นำด้านดิจิทัลในระยะยาวได้  

Untitled design (29)_edited_edited.png

สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย

276 ซ.รามคำแหง 39 (เทพลีลา 1) ถ. รามคำแหง แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310

Contact Us

Tel: +662-319-7677 / +662-718-5601

Click here to find us on map

  • Line_Rounded_Solid_icon-icons.com_61550
  • LinkedIn
  • Facebook
  • Instagram

Copyright ©2024 by TMA

bottom of page